ต้อลม (pinguecula) รักษายังไงให้หายขาด

 ต้อลม (pinguecula) รักษายังไงให้หายขาด

ต้อลมเกิดจากคอลลาเจนในตาเสื่อม อายุเท่าไรก็เป็นได้ ไม่ใช่โรคอันตรายถ้าไม่ลุกลามกลายเป็นโรคตาชนิดอื่น สามารถรักษาได้ แต่ไม่หายขาด

ต้อลม  (Pinguecula) โรคนี้สามารถพบได้ในทุกช่วงวัย  อาจมาแฝงอยู่ในดวงตาของเราได้ตั้งแต่อายุน้อย เป็นโรคที่ไม่ได้มีอันตรายร้ายแรง แต่สามารถทำให้มีอาการรบกวนชีวิตประจำวันได้มาก  หากเราทราบปัจจัยสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ และรู้วิธีป้องกันรักษาภาวะนี้ จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้มาก

ต้อลมเกิดจากสาเหตุใด

สาเหตุของโรคนี้เกิดจากคอลลาเจนในเยื่อบุตาขาวเสื่อมสภาพ คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบที่อยู่ในเยื่อบุตาขาว  เมื่อคอลลาเจนผิดปกติจะทำให้บริเวณตาขาวมีก้อนนูน ๆ เกิดขึ้น เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในดวงตาที่บริเวณตาขาว สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งดวงตาเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้างได้ อีกทั้งยังเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย โรคนี้เกิดกับผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่เข้าใจได้ว่าเป็นความเสื่อมสภาพของคอลลาเจน แต่ในคนอายุน้อย  อาจมีข้อสงสัยว่าทำไมคอลลาเจนจึงเสื่อมได้ทั้ง ๆ ที่อายุยังไม่มาก ความเสี่ยงต่อภาวะคอลลาเจนเสื่อมในคนอายุน้อยสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

-             การเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นหรือควันบ่อย ๆ อยู่ในที่ที่มีอากาศแห้ง มีลมแรง แดดแรงทำให้ได้รับรังสียูวีมากกว่าปกติ ล้วนแล้วแต่เป็นภาวะกระตุ้นให้เนื้อเยื่อคอลลาเจนเสื่อมสภาพเร็ว

-             การทำงานที่ต้องใช้สายตามาก เช่น ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน จากความเสี่ยงนี้จึงส่งผลทำให้พบผู้ป่วยต้อลมมีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ

-             การทำงานอาชีพที่ส่งผลต่อสุขภาพ ต้องออกแดดกลางแจ้งเป็นประจำ เช่น งานก่อสร้าง งานช่างเชื่อมเหล็กที่ต้องเจอกับรังสีอินฟราเรดและรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการที่รังสีจะทำร้ายดวงตา หรือทำอาชีพเกี่ยวข้องกับสารเคมีที่มีไอระเหย

-             ตาแห้ง ดวงตามีน้ำตาน้อยกว่าปกติ ทำให้ผิวตาขาดความชุ่มชื้นเกิดการระคายเคืองจนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคนี้ได้ง่าย

-             คนในครอบครัวพ่อแม่พี่น้องใครคนใดคนหนึ่งมีประวัติเป็นโรคต้อลม

-             การสูบบุหรี่ ควันบุหรี่ทำให้เกิดภาวะตาแห้งและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตา

ความผิดปกติของดวงตาที่เป็นต้อลม

อาการของโรคนี้เริ่มจากมีปุ่มขึ้นในตา อาจจะเป็นแผ่นเล็ก ๆ  หรือเป็นเม็ดคล้ายเม็ดดินทราย มีสีขาว หรือสีเหลืองซีดเพราะไม่มีเส้นเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยง ถ้ามองจากภายนอกไปที่นัยน์ตาในบริเวณตาขาวจะสามารถเห็นก้อนนี้ได้ เม็ดนี้มักจะขึ้นที่บริเวณหัวตามากที่สุด และมีขึ้นที่หางตาบ้างแต่น้อยกว่า ก้อนเนื้อที่ผุดขึ้นไม่มีอันตรายร้ายแรง ช่วงแรกอาจจะมีแค่อาการเคืองตา อาจมีอาการคันตา น้ำตาไหลบ่อยๆ ถ้าเป็นมากขึ้น จะสังเกตตาขาวเป็นสีแดงได้บ่อยๆ

การป้องกันดวงตาไม่ให้เกิดต้อลม

โรคนี้ป้องกันได้ถ้ารู้ตัวว่าต้องทำงานหรือใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อาจนำไปสู่การเกิดต้อลม สามารถใช้วิธีป้องกันที่เหมาะสมกับตัวเอง วิธีป้องกันได้แก่

-     การสวมแว่นกันแดดที่มีเลนส์กรองรังสีอัลตราไวโอเลตเมื่อออกนอกบ้านหรือต้องไปทำงานกลางแจ้ง สถานที่ที่มีลมแรง ลักษณะของแว่นควรมีกรอบปิดด้านข้างเพื่อให้สามารถกันฝุ่นและลมได้ด้วย ถ้าสามารถทำได้ให้เลี่ยงช่วงเวลาแดดจัดที่มีรังสีรุนแรงคือช่วงระหว่างเวลา 10.00 – 16.00 น.

-          เวลาที่ต้องอยู่กลางแดดให้สวมหมวกไว้ด้วย เพื่อป้องกันรังสียูวีอีกชั้นไม่ให้ส่องหน้าและดวงตา

-             สวมแว่นตาเมื่อนั่งทำงานในห้องแอร์ที่อากาศแห้งมาก

-             สวมแว่นตานิรภัยในสถานที่ทำงานที่มีสารเคมีหรือแสงไฟเชื่อมโลหะ

-             งดสูบบุหรี่

-             ใช้น้ำตาเทียมเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับดวงตาเมื่อรู้สึกตาแห้งเป็นระยะ

-       พักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เวลาทำงานทุกๆ 20-30 นาที ด้วยการเปลี่ยนจากมองที่หน้าจอ เป็นมองไกลออกไปนานประมาณ 1 นาที

การดูแลดวงตาเมื่อเป็นต้อลมระยะเริ่มต้น

     ​ใครที่ไม่ทันระวังการใช้สายตาและพบว่าโรค ต้อลม มาเยือนเร็วกว่าที่คิด ควรรีบป้องกันและรักษาโรคไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยการไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ โดยปกติแพทย์จะให้ยาหยอดตามาใช้เพื่อลดการระคายเคือง ป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบ และอาจใช้น่ำตาเทียมร่วมด้วยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา

นอกจากการใช้ยาหยอดตาแล้วแพทย์จะแนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังการใช้สายตาและการดูแลดวงตาให้มากขึ้น ไม่ปล่อยให้ดวงตาตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สุ่มเสี่ยงซ้ำอีก ใส่แว่นป้องกันดวงตาจากการถูกลม แสงแดด และปัจจัยอื่นๆที่เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบ รวมถึงการระมัดระวังพฤติกรรมที่จะส่งผลต่อการลุกลามของโรค เช่น การขยี้ตาแรง ๆ จะทำให้ต้อลมอักเสบมากขึ้นได้

สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังไม่ให้ต้อลมอักเสบ

นอกจากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่จะมากระตุ้นให้ ต้อลมอักเสบมากขึ้นแล้ว สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือภาวะแทรกซ้อน ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อดวงตามีการระคายเคืองมากกว่าปกติ ต้อลมและบริเวณรอบๆ จะบวมแดงมากขึ้นและอาจมีอาการลุกลามกลายเป็นต้อเนื้อได้ ต้องระมัดระวังไม่ให้มือสัมผัสดวงตาและไม่ให้ดวงตาเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงโดยเด็ดขาด เพราะการลุกลามอาจทำให้เกิดพังผืดขึ้นที่บริเวณเยื่อบุตา พังผืดนี้มีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อสีแดง ถ้าเป็นมากขึ้นจะลามเข้าไปถึงบริเวณตาดำ กลายเป็นต้อเนื้อ หากต้อเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถไปรูม่านตา ทำให้เกิดสายตาเอียงมากขึ้นและทำให้การมองเห็นแย่ลง หากไม่หลีกเลี่ยงต้นตอของโรคต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จะทำให้ตามัวลง  ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดลอกต้อเนื้อในที่สุด

การรักษาต้อลมให้หายขาดทำได้หรือไม่?

ผู้ที่เป็นโรคนี้จะได้รับการบรรเทาอาการระคายเคืองและอักเสบด้วยยาหยอดตา แต่ไม่ใช่วิธีที่จะรักษาให้ต้อลมจางหายได้ ดังนั้นคงมีโอกาสที่ต้อลมกลับมาอักเสบได้อีกเรื่อยๆ หากยังสัมผัสปัจจัยเสั่ยง แต่เนื่องจาก ต้อลมชนไม่อันตรายและมีขนาดเล็กอยู่ในบริเวณตาขาวเท่านั้น ไม่ได้กระทบต่อการมองเห็น แพทย์จึงไม่แนะนำให้ผ่าตัด ยกเว้นกรณีที่คนไข้ต้องการผ่าเพื่อความสวยงามเท่านั้น

การรักษาที่ดีที่สุด คือ

-             หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดต้อลม

-             หากมีอาการเคืองตาหรือตาแดง มากขึ้น ควรเข้ารับคำแนะนำจากจักษุแพทย์ ใช้ยาหยอดตาเมื่อมีอาการคันเคืองตาหรือตาแดง โดยใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น  และใช้ในปริมาณและระยะเวลาที่แพทย์กำหนด ไม่ควรใช้ยาติดต่อกันนานเกินกว่าแพทย์สั่ง และที่สำคัญไม่ควรซื้อยาหยอดตามาใช้เอง

สาเหตุที่ไม่ควรซื้อยาหยอดตามาใช้เอง เนื่องจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาหยอดตาเสตียรอยด์ ไปนานๆ อาจทำให้เป็นโรคตาชนิดอื่นๆ ได้ และนำไปสู่ภาวะอันตรายที่ทำให้ตาบอดถาวร นอกจากนั้นการซื้อยาหยอดตาเองเราอาจจะได้ยาที่ไม่ตรงกับสาเหตุที่เป็นโรค ยกตัวอย่างเช่น เมื่อกเนื้ออักเสบและตาขาวมีสีแดง หากไปซื้อยาที่ร้านขายยาเองเภสัชอาจเข้าใจว่าเป็นโรคตาแดงหรือเป็นภูมิแพ้จึงนำยาหยอดสำหรับโรคตาแดงและยาแก้แพ้มาให้ เป็นการรักษาที่เสียเปล่าเพราะไม่ตรงจุด นอกจากนี้การซื้อยาหยอดตามาใช้อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตาชนิดอื่นได้ จากเรื่องของก้อนเนื้อเล็ก ๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่และมีอาการลุกลาม

 อาการแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดต้อกระจก
 ICL หรือ Implantable Collamer Lens ทางเลือกใหม่การรักษาสายตาผิดปกติ
 วิธีทดสอบสายตาอย่างไร ให้รู้ว่าเป็นภาวะสายตาเอียง (Astigmatism)
 กระจกตาถลอก (Corneal Abrasion) กี่วันหาย ใช้ยาอะไร
 ประโยชน์ของน้ำตาเทียม ทำไมผู้สูงอายุควรใช้
 สายตาแบบไหน ควรทำ ICL ผ่าตัดใส่เลนส์เสริม
 นักทัศนมาตร (Optometrist) คือใคร ทำไมต้องตัดแว่นกับนักทัศนมาตร
 ต้อหิน (Glaucoma) เป็นแล้วรีบรักษา ก่อนสูญเสียการมองเห็น
 รู้ทันสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงการเกิดต้อเนื้อ (Pterygium) ที่อาจทำให้ตาบอดได้
 ต้อลม (pinguecula) รักษายังไงให้หายขาด